องค์ประกอบของการเล่านิทาน
องค์ประกอบของการเล่านิทาน
มีองค์ประกอบหลัก 5 องค์ประกอบ
- ผู้เล่านิทาน คือ ผู้ส่งสารซึ่งจะมีทักษะ ความสามารถ
ลีลาในการเล่าเรื่องเฉพาะตัว
ผู้เล่านิทานที่มีความสามารถจะทำให้เนื้อเรื่องที่สนุกสนานอยู่แล้วสนุกสนานตื่นเต้นชวนติดตามมากขึ้น
ผู้เล่านิทานแต่ละคนอาจจะจดจำเนื้อหาเรื่องราวได้ไม่เหมือนกัน
สนใจรายละเอียดต่างกัน
บางคนชอบเล่าแบบรวบรัดก็จะจำแต่เฉพาะเนื้อหาหลักๆข้ามเนื้อความบางตอนไปเสีย
บางคนสนใจรายละเอียดก็จะพรรณนาความมาก นิทานเรื่องเดียวกันจึงมี
เนื้อหาแตกต่างกันไป
- เนื้อเรื่องของนิทาน
เนื้อเรื่องนิทานจัดเป็นเนื้อหาสาระที่ผู้เล่านิทานส่งไปให้ ผู้รับสาร
คือผู้ฟัง นิทานมีหลายประเภทดังที่กล่าวมาแล้วข้างต้น
มีเนื้อหาและความยาว ต่างกัน
นิทานเรื่องเดียวกันอาจมีเนื้อเรื่องแตกต่างกันไปเรียกว่า มีหลายสำนวน
(Version) คำว่า “สำนวน” ประคอง นิมมานเหมินทร์ (2543, หน้า 38)
อธิบายว่า
“สำนวนเป็นคำศัพท์ที่ใช้กับนิทานพื้นบ้านเรื่องเดียวกัน แต่เก็บจาก
ที่ต่างๆกัน หรือเก็บจากผู้เล่าคนเดียวกันแต่ต่างเวลากัน
นิทานที่เก็บได้
จากผู้เล่าคนหนึ่งหรือครั้งหนึ่งๆ ก็เป็นนิทานสำนวนหนึ่ง”
- ผู้ฟังนิทาน คือ ผู้รับสาร
ซึ่งจะต่างจากผู้รับสารอื่นๆอยู่บ้างตรงที่ผู้ฟังนิทานส่วนใหญ่จะมีความสนใจในเนื้อเรื่อง
และพยายามจะมีส่วนร่วม เช่น มีการซักถาม
คัดค้านหรือสนับสนุนเนื้อหาในนิทาน
เป็นปฏิกิริยาโต้ตอบกับผู้เล่าจะทำให้บรรยากาศในการเล่านิทานสนุกสนานยิ่งขึ้น
ในทางคติชนวิทยาแบ่งผู้ฟังนิทานออกเป็น 2 ประเภท (ศิราพร ฐิตะฐาน,
2523, หน้า 22-23) คือ
3.1. Passive bearers tradition หมายถึง ผู้คนทั่วไปที่ชอบฟังนิทาน
จำเรื่องได้แต่ถ่ายทอดไม่ได้
3.2. Active bearers tradition หมายถึง
บุคคลที่มีวิญญาณของนักเล่านิทาน เมื่อฟังนิทานจากผู้เล่าคนหนึ่งๆ
แล้วก็สามารถจดจำเนื้อเรื่องและสามารถถ่ายทอดได้อย่างมีชีวิตชีวา
มีลีลาดึงดูดผู้ฟังได้อย่างน่าสนใจ
ผู้ฟังประเภทนี้นับเป็นผู้มีบทบาทสำคัญในการ ถ่ายทอดและ
การแพร่กระจายของนิทาน
- จุดประสงค์ในการเล่านิทาน การเล่านิทานจุดมุ่งหมายส่วนใหญ่อยู่ที่
ความสนุกสนานบันเทิงเป็นหลัก
ส่วนจุดมุ่งหมายอื่นๆนั้นมักจะขึ้นอยู่กับผู้เล่า
นิทานเรื่องเดียวกันผู้เล่าอาจจะมีจุดประสงค์ในการเล่านิทานแตกต่างกันไปบ้าง
ซึ่งพอจะสรุปได้ดังนี้
1. เพื่อความสนุกสนาน เป็นเครื่องบันเทิงใจในยามว่าง
2. เพื่อใช้สั่งสอน ได้แก่ นิทานคติต่างๆ
3. เพื่อให้ความรู้ในด้านต่างๆ เช่น นิทานเกี่ยวกับสถานที่ ปรากฏการณ์
ธรรมชาติ
4. เพื่อใช้เป็นเครื่องมือในการเผยแผ่ศาสนา เช่น รามายณะ
นิทานเกี่ยวกับเทพเจ้าต่างๆ เป็นต้น
- โอกาสในการเล่านิทาน การเล่านิทานเล่าได้เกือบทุกโอกาส ได้แก่
ในงานประเพณีหรือพิธีกรรมทางศาสนา ในขณะที่ทำงานร่วมกัน เช่น ทำนา
ทำไร่ เก็บฝ้าย จักสาน เย็บปักถักร้อย เตรียมของทำงานประเพณี
ขณะเดินทาง เป็นต้น
ในช่วงเวลาที่ไม่สามารถไปไหนหรือทำกิจกรรมอื่นใดได้สะดวก เช่น
ในฤดูหนาว หรือช่วงฝนตก เป็นต้น
ผู้เล่านิทานมักจะเป็นนักบวชหรือพระภิกษุโดยยกตัวอย่างเล่าแทรกไปในคำสอน
เท่าที่สังเกตพบเวลาที่เหมาะสมที่สุดสำหรับ
การเล่านิทานน่าจะเป็นช่วงเวลากลางคืน
ซึ่งเสร็จจากภารกิจการงานประจำวันมาพักผ่อนร่วมกัน
เรื่องที่เล่าก็เป็นเรื่องนานาชนิด
แต่พอตกดึกเรื่องที่เล่าก็มักจะเปลี่ยนมาเป็นเรื่องผี
องค์ประกอบของการเล่านิทานที่กล่าวมานี้
องค์ประกอบที่มีผลให้เนื้อเรื่องของนิทานเปลี่ยนแปลงไปมากที่สุดคือ
ผู้เล่านิทาน
นิทานที่แพร่กระจายไปตามถิ่นต่างๆมีความเปลี่ยนแปลงที่เกิดจากตัวผู้เล่า
<<
ย้อนกลับ |
เอกสารอ้างอิง