สนามหลวง ของกรุงเทพมหานคร เป็นสถานที่สำคัญและมีชื่อเสียงที่ทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศรู้จักดี เพราะเป็นสนามหญ้าที่กว้างใหญ่ เป็นสถานที่ประกอบพระราชพิธีที่สำคัญ เช่น พระราชพิธีจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ พระราชพิธีกาญจนาภิเษก รวมไปถึงการจัดงานต่างๆ เช่น งานปีใหม่ งานเฉลิมพระชนมพรรษา รวมไปถึงเป็นแหล่งพักผ่อนหย่อนใจ และแหล่งประกอบอาชีพของคนเมืองหลวง หนึ่งในอาชีพนั้น คือ หมอดู ที่สนามหลวง
อาชีพหมอดู ที่สนามหลวงเป็นอีกอาชีพหนึ่งในหลายอาชีพที่น่าสนใจ อาชีพหมอดู เป็นอาชีพที่เกี่ยวกับความเชื่อของคนโดยแท้ และเป็นอาชีพที่เก่าแก่ที่สุด และมีอิทธิพลที่สุดด้วย ทั้งนี้ก็เนื่องด้วยคนมีความกลัวฝังอยู่ในจิตใต้สำนึก กลัวความไม่แน่นอน กลัวธรรมชาติ กลัวความล้มเหลว ความผิดหวัง ความตาย อาชีพหมอดูจึงมีมานาน คู่กับมนุษย์เลยทีเดียว
หมอดู ถ้าย้อนเรื่องราวเกี่ยวกับศาสนาทุกศาสนา ก็จะมีเรื่องหมอดู พุทธศาสนาเมื่อพระพุทธองค์ประสูตร ก็มีเรื่องคำทำนายไว้ว่า หากพระองค์ครองเพศเป็นฆราวาสก็จะเป็นพระมหาจักรพรรดิ์ ถ้าออกบวชก็จะเป็นพระพุทธเจ้า แม้พระบิดาจะทรงป้องกันอย่างไร พระพุทธองค์ก็ทรงเลือกการออกบวช ทรงตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า นี้คือเรื่องของหมอดู
ที่สนามหลวง ถ้าใครไปเดินพักผ่อนหรือผ่านไป จะเห็นคนอาชีพหนึ่งคือ อาชีพหมอดู มีทั้งหญิงและชาย ส่วนใหญ่อายุอยู่ในวัยกลางคนขึ้นไป แต่ละคนก็จะยึดทำเลที่เหมาะๆ เช่นตามข้างรั้วของศาล ใต้ต้นไม้ หรือ อยู่ใกล้ป้ายจอดรถประจำทาง เป็นต้น
สถานที่ประกอบอาชีพ ก็ไม่มีอะไรมาก มีผ้าพลาสติก หรือ เสื่อปูพอให้คนมาดูหมอนั่งสบาย นอกจากนั้นหมอดูก็จะมีอุปกรณ์ในการดูหมอเช่น ตำราดูดวงชะตา สมุดบันทึก ป้ายบอกว่าดูหมอแบบใด เช่น ดูดวงชะตา ดูลายมือ ดูไพ่ ดูเลข ๗ ตัว เป็นต้น ส่วนประกอบอื่น เช่น แว่นขยาย ปฏิทิน 100 ปี หรืออื่นๆตามความจำเป็น
ผู้ประกอบอาชีพหมอดูที่สนามหลวง มีทั้งที่เป็นหมอดูอาชีพ ใช้อาชีพหมอดูหาเลี้ยงครอบครัวโดยตรง และผู้ที่ประกอบอาชีพหมอดูเพื่อเสริมรายได้ ดังคุณลุงสนิท ดีสกัด ที่ประกอบอาชีพหมดดูมาเกือบ 10 ปีแล้ว
ลุงสนิท ดีสกัด อายุ ๖๕ ปี เป็นข้าราชการครู การศึกษาระดับปริญญาตรี รับราชการมาจนเกษียณอายุราชการและรับบำนาญ รายได้ก็พอเลี้ยงครอบครัว อาชีพหมอดูเป็นอาชีพเสริมซึ่งก็ทำรายได้เสริมดีมากทีเดียว
การเข้าสู่อาชีพหมอดู เริ่มเมื่ออายุ ๕๕ ปี เริ่มสนในอาชีพนี้ และเริ่มศึกษาวิชาทำนายดวงชะตาอย่างจริงจังจากอาจารย์หลายท่านและเข้าเรียนที่โรงเรียนฝึกอาชีพ ของกรุงเทพมหานคร ที่สวนลุมพินี ขณะนี้ยุบเลิกไปแล้ว ใช้เวลาเรียน ๑ ปี จากนั้นก็เริ่มศึกษาเพิ่มเติมด้วยตัวเองอีก และฝึกดูดวงชะตาและทำนายตัวเอง คนในครอบครัว และขยายไปยังเพื่อนฝูง ตอนแรกคุณลุงก็ยังไม่เชื่อวิชาหมอดู พอใช้เวลาศึกษาและสัมผัสด้วยตัวเองจึงเชื่อ เพราะเป็นศาสตร์ที่มีเหตุผล การทำนายทุกครั้งจะถูกหรือเป็นจริงประมาณ 90 % จึงทำให้แน่ใจ และประกอบอาชีพหมอดูมาจนปัจจุบัน
การดูหมอของลุงสนิท ดีสกัด ใช้วิชาหมอดู ๒ วิชา คือวิชาโหราศาสตร์ อันหมายถึงการทำนายโดยการใช้วัน เดือน ปี และเวลาเกิด มาคำนวณผูกเป็นดวงชะตาแล้วทายตามดวงชะตานั้น อีกวิชาหนึ่งคือ วิชาหัตถศาสตร์โดยการดูรายมือของผู้มาดูหมอแล้วก็ทายตามลักษณะของลายมือที่ปรากฎ ลุงสนิทบอกว่า การใช้วิชาหมอดูทั้ง ๒ วิชาประกอบกันจะเป็นการตรวจสอบ ยืนยันกันอย่างละเอียด ทำให้การทำนายแม่นยำมากยิ่งขึ้น
เวลาในการประกอบอาชีพหมอดูแต่ละวัน เริ่มตั้งแต่ 10.00 น.เป็นต้นไป จนถึงประมาณ 18.00 น. ไม่มีวันหยุด ยกเว้นวันไหนที่ฝนตกหนักก็จะประกอบอาชีพไม่ได้ อุปสรรคที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งก็คือ เจ้าหน้าที่เทศกิจคอยมารบกวนเรื่องสถานที่
ลูกค้ามีตั้งแต่วัยรุ่นไปจนถึงคนแก่อายุ 60-70 ปีก็มี ถ้าวัยรุ่นก็จะดูเรื่องเนื้อคู่ เรื่องเรียน เรื่องอาชีพการงาน และอนาคต ถ้าคนสูงอายุก็จะมาดูเรื่องปัญหาที่กำลังประสบอยู่ วิธีแก้ปัญหา เรื่องโชคลาภ เรื่องฐานะความเป็นอยู่
ส่วนราคาค่าดูหมอ คิดครั้งละประมาณ 30 บาท แต่ละวันจะมีรายได้ประมาณ 700-800 บาท บางวันได้ถึง 1000 บาทก็มี ซึ่งเมื่อคิดรวมเป็นรายเดือน หมอดูที่สนามหลวงก็เป็นอาชีพที่ทำรายได้เลือนหมื่น นับเป็นอาชีพที่มีรายได้ดีทีเดียว
ลุงสนิท ตีสกัด ถือว่าอาชีพหมอดูเป็นอาชีพที่ช่วยเหลือคน อย่างน้อยก็ให้กำลังใจและแนะแนวทางและวิธีแก้ปัญหาต่างๆให้แก่คนที่ขาดกำลังใจ จึงยังประกอบอาชีพนี้ต่อไป และยังฝากไว้ด้วยว่า ถ้าจะไปดูหมอที่สนามหลวง ให้พิจารณาให้ดีเพราะมีการต้มตุ๋นผู้มาดูหมอด้วย เพราะมีบางคนนอกจากจะไม่ใช้วิชาหมอดูอย่างเป็นอาชีพสุจริตที่มีคุณธรรมแล้วยังหลอกลวงคนมาดูหมอให้เสียเงินจากการเป็นหมอดูที่ไม่รู้จริงอีกด้วย
อ่านเพิ่มเติมลิ้งค์ด้านล่าง หมวดไทยทำ (งาน อาชีพ เครื่องมือทำมาหากิน )
บางกอกดอลล์
หมอดูที่สนามหลวง
เลี้ยงหอยแมลงภู่
หน้าหลัก